หนังสือเล่มโปรด (My Favorite Book)

[ แนะนำหนังสือเล่มโปรด ]

ดร.นพ. ฉัตรชัย เหมือนประสาท

อาจารย์ภาควิชาสรีรวิทยา
คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

 

        เล่มที่ผมชอบคือ Joy of Living เขียนโดย ท่าน Yongey Mingyur Rinpoche มันช่วยตอบโจทย์ใน ชีวิตผมนะ คือช่วงหนึ่งผมเคยตั้งคำถามว่าทำยังไงชีวิตเราถึงจะมีความสุข เลยไปเดินหาหนังสืออ่านว่าการ ดำเนินชีวิตให้มีความสุขนี่เป็นยังไงนะ ก็เจอหนังสือเล่มนี้ ได้ข้อคิดหลายๆ อย่าง เค้าจะว่าด้วยเรื่องของ การเข้าใจการทำงานของจิตซึ่งจะนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสุขในชีวิต คนเขียนนี่เป็นพระธิเบต ท่านเป็นพระที่เชี่ยวชาญในการสอนการทำสมาธิตามหลักของพระพุทธศาสนา ท่านมีวิธีในการสอนที่เข้าใจง่าย โดยใช้ตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจน เข้าใจกลไกการทำงานของสมอง ท่านได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรตามที่ต่างๆ เยอะ ท่านจะเข้าใจว่าสมองทำงานยังไง และสามารถเชื่อมโยงมาอธิบายธรรมชาติของจิต การทำสมาธิและ การเกิดความสุขหรือทุกข์ได้ ในหนังสือเล่มนี้จะพูดถึงว่า ทำยังไงมันถึงจะมีความสุข มีการสอนการทำ สมาธิว่าต้องทำยังไง คือมันไม่จำเป็นต้องนั่งตลอดเวลา ความจริงจิตเราไม่จำเป็นจะต้องนิ่ง เพียงแต่ว่าเรา ต้องรับรู้ถึงสิ่งที่เข้ามาและออกไป ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา เล่มนี้เป็นแนวธรรมะผสมกับวิทยาศาสตร์ อาจจะเป็นวิทยาศาสตร์มากๆ ด้วยซ้ำ

        ผมเอามาใช้สังเกตตัวเราเองว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ มั้ย เราทำได้อย่างนั้นมั้ย จะพยายามรู้ตัวอยู่ตลอด จะไม่หวั่นไหวง่ายกับเหตุการณ์รอบข้าง ได้เรียนรู้ประสบการณ์จากท่าน ที่ท่านสอนลูกศิษย์มา เจอผู้คน มากมาย ตอนที่ซื้อมาอ่านตอนนั้นคือตั้งคำถามกับตัวเองขึ้นมาว่าความสุขแท้จริงในชีวิตคืออะไร พอเจอเล่มนี้ชื่อ Joy of Living : Unlocking the Secret & Science of Happiness ก็เลยซื้อมา มีการสอนทำสมาธิว่า ต้องทำยังไง ใช้เชิงวิทยาศาสตร์มาอธิบาย
        มีการทำวิจัยกับกลุ่มคนที่ทำสมาธิพบว่า ระบบประสาทมีกลไกที่เชื่อมโยงกันที่ดีกว่าคนปกติ แต่ก็ไม่ได้ งมงายนั่งสมาธิทั้งวัน บางคนนั่งไม่ได้เพราะจิตใจฟุ้งซ่านคิดโน่นคิดนี่ จริงๆ แล้วการที่แค่เรานั่งแล้วรู้ตัวว่า มีเรื่องนั้นเรื่องนี้เข้ามา แค่นี้ก็พอแล้ว เพียงแต่เราต้องรู้ตัวเสมอ ฝึกให้เรารู้ตัวตลอดเวลา เพราะบางทีเราทำอะไร นี่ก็ลืมโน่นก็ลืม คือเราไม่รู้ตัวไม่มีสติกับตัว มันก็สอดคล้องกับหลักศาสนา แต่เล่มนี้เป็นเชิงวิทยาศาสตร์ เล่มอื่นที่ชอบก็ เข็มทิศชีวิต เล่มนี้ก็ดีมากๆ เป็นการมองโลกที่ทำให้ชีวิตมีความสุข แล้วผมสนใจกับเรื่อง พวกนี้ด้วยว่าทำยังไงชีวิตจะมีความสุข


        การอ่านหนังสือนี่อยากให้อ่านหนังสือตามความสนใจของเรา แต่เราควรจะอ่านในสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรา Improve หรือดีขึ้น เราจะได้นำแนวคิดนั้นมาใช้กับชีวิต บางทีเราอ่านแล้วก็พบว่าอันนี้คิดเหมือนเราเลย แต่เค้าอาจจะมีทางออกหรือการจัดการกับปัญหาในชีวิตได้ดีกว่า บางอย่างก็เป็นปัญหาอย่างเช่นเรารู้สึกว่า เราหาความสุขในชีวิตไม่เจอ เราคิดว่าเรียนจบแล้วจะมีความสุข มีงานที่มั่นคงทำแล้วจะมีความสุข มีเงิน มีรถ มีบ้านแล้วจะมีความสุข ได้อย่างโน้นอย่างนี้แล้วจะมีความสุข แต่พอเราได้แล้วเรากลับรู้สึกว่ามันก็ยังไม่มี ความสุข อย่างผมนี่ก็เป็น...แล้วชีวิตที่มีความสุขคืออะไร ทำอย่างไรจึงจะมีความสุข ก็ต้องหา อย่างเช่นที่ ผมอ่านนี่ คืออ่านแล้วจะได้ไอเดีย มันต้องคิดอย่างนี้นะ เราก็จะมีความสุข ความสุขชีวิตอยู่ใกล้ ๆ ตัวเรานี่เอง ซึ่งบางครั้งเราก็มองไม่เห็นมัน อย่างตัวผมเองก็ต้องมองว่าจุดไหนที่ทำให้เราดีขึ้น เราขาดตรงไหน นั่นคือสิ่ง ที่เราต้องการคำตอบ สำหรับผมการอ่านหนังสือจะเน้นอ่านแล้วมา fulfill ในส่วนที่เราขาดและกำลังค้นหามันอยู่ ก็จะได้ความรู้ได้แนวคิดอีกมากมายซึ่งสามารถนำมา ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
 
ปรับปรุงครั้งล่าสุด : 2 มิถุนายน 2565 stang.sc.mahidol.ac.th/bookfair2011