http://stang.sc.mahidol.ac.th
 
"ห้องสมุด" ที่มีแต่ "หนังสือ" (ประวัติศาสตร์ห้องสมุด)*
  โดย อภิชัย อารยะเจริญชัย
**
 
Webster’s Third New International Dictionary ได้ให้ความหมายของคำว่า Library ว่า “a room, a section or series of sections of a building, or a building itself given over to books, manuscripts, musical scores, or other literary and sometimes artistic materials (as paintings or musical recordings) kept in some convenient order for use but not for sale”

Longman Dictionary of Contemporary English ให้ความหมายของ Library ไว้ว่า “a room or building containing books that can be looked at or borrowed”

Encyclopedia Britanica ให้คำจำกัดความของ Library ไว้ว่า “a collection of written, printed or other graphic material (including films, slides, phonography records and tapes) organized for use”

ในประเทศไทย คำว่า Library ถูกบัญญัติให้ใช้ว่า “ห้องสมุด” พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายว่า “ห้องหรืออาคารที่มีระบบจัดเก็บรวบรวมรักษาหนังสือประเภทต่างๆ ซึ่งอาจรวมทั้งต้นฉบับลายมือเขียน ไมโครฟิล์ม เป็นต้น เพื่อใช้เป็นที่ค้นคว้าหาความรู้”

 
หนังสือ คือ สมุด 

นั่นคือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ของการให้ความหมายของคำว่า Library หรือ ห้องสมุด ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างสองคำนี้ คำว่า Library คำเดียวตามที่ฝรั่งเขาใช้กัน มีความเข้าใจไปในทางเดียวกัน ครอบคลุมสิ่งที่เรียกว่าเป็น Information ทุกประเภท แต่คำว่าห้องสมุดในภาษาไทย กลับสามารถตีความตามตัวอักษรออกไปได้อีก โดยเฉพาะความหมายตรงของคำว่า “สมุด” กับความเข้าใจของคนไทยกับคำว่า “ห้องสมุด” และสิ่งที่อยู่ในนั้นก็คือ “หนังสือ”

คำว่า สมุด ในพจนานุกรมให้ความหมายไว้ว่า “กระดาษที่ทําเป็นเล่ม มีหลายชนิดเรียกชื่อตามประโยชน์ใช้สอย เช่น สมุดวาดเขียน สมุดแผนที่ สมุดแบบฝึกหัดคัดลายมือ”
คำว่า หนังสือ ในพจนานุกรมให้ความหมายไว้ว่า “เครื่องหมายใช้ขีดเขียนแทนเสียงหรือคําพูด เช่น อ่านหนังสือ เขียนหนังสือ “

ฉะนั้น หากผมจะตีความตามประสาคนรู้น้อยคงจะได้ความว่า สมุด เป็นต้นกำเนิดของหนังสือ เพราะสมุดคือกระดาษว่างๆ จนกระทั่งเราบันทึกอะไรลงไปนั่นแหละมันจึงกลายเป็นหนังสือ ทีนี้ก็จึงมีคำถามขึ้นมาว่า ห้องสมุด แต่เหตุไฉนจึงมีแต่หนังสืออยู่เต็มไปหมด

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เมื่อหนังสือเกิดจากสมุด เราจึงเรียกสถานที่เก็บว่าห้องสมุด คำๆ นี้ถูกบัญญัติขึ้นใช้อย่างเป็นทางการในสมัยรัชกาลที่ ๖ แต่โดยก่อนหน้านี้มีหลักฐานปรากฎว่าเราเคยใช้คำนี้มาก่อนแล้ว คือคำว่า หอพระสมุด ซึ่งใช้กันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่นั่นหมายความถึงสถานที่ที่เป็นของหลวงหรือภายในพระบรมมหาราชวัง แต่สุดท้ายเหตุผลที่เรายังคงใช้คำว่าห้องสมุดแทนคำว่าห้องหนังสือนั้นก็ยังไม่ปรากฎแน่ชัด เพราะเนื่องจากมันแปรเปลี่ยนจากสมุดมาเป็นหนังสือแล้วก็ไม่เห็นมีความจำเป็นต้องใช้คำว่าสมุดเลย

คณะฑูตไทยนำโดย เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน)
เดินทางไปเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศฝรั่งเศส

ในสมัยที่ยังไม่มีเทคโนโลยีการพิมพ์ การทำหนังสือในสมัยก่อนต้องอาศัยการเขียนด้วยลายมือแต่เพียงอย่างเดียว อันที่จริงเทคโนโลยีการพิมพ์ของบ้านเราน่าจะเริ่มมีขึ้นตั้งแต่ในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ.๒๑๗๕-๒๒๓๑) เป็นช่วงที่มีพวกมิชชันนารีเข้ามาเผยแพร่ศาสนาในกรุงศรีอยุธยา มีบาทหลวงผู้หนึ่งชื่อ บาทหลวงลาโน (Laneau) เป็นชาวฝรั่งเศส ได้นำแท่นพิมพ์เข้ามาเพื่อจัดพิมพ์หนังสือคำสอนออกเผยแพร่ เป็นที่พอพระราชหฤทัยของสมเด็จพระนารายณ์ ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) เดินทางไปยังประเทศฝรั่งเศสเพื่อศึกษาวิธีการพิมพ์ตามแบบของฝรั่ง เพื่อนำมาใช้ในกรุงศรีอยุธยา แต่ครั้นสิ้นแผ่นเดินสมเด็จพระนารายณ์ กิจการโรงพิมพ์ของฝรั่งในกรุงศรีอยุธยาก็เสื่อมถอยลง ด้วยเหตุที่พระเจ้าแผ่นดินพระองค์ถัดมาไม่ใคร่โปรดพวกฝรั่งนัก

กิจการการพิมพ์ของไทยเริ่มต้นอย่างจริงจังเป็นที่รู้จักกันดีในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ โดยผู้ที่เริ่มกิจการเป็นผู้แรกคือ นายแพทย์ แดน บีช แบรดลี่ย์ (Dan Beach Bradley, M.D.) หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า หมอบรัดเลย์ โดยท่านเดินทางเข้ามาเมืองไทยเพื่อเผยแพร่ศาสนาและก็ได้เปิดร้านรักษาผู้คนไปด้วย ซึ่งวิธีหนึ่งการเผยแพร่ศาสนาของท่านนั้นคือการพิมพ์หนังสือ งานแรกที่โรงพิมพ์ของหมอบรัดเลย์ได้ผลิตขึ้นมาเป็นใบประกาศห้ามสูบและห้ามค้าฝิ่น ซึ่งนับเป็นเอกสารราชการของไทยฉบับแรกที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์

จากนั้นมากิจการการพิมพ์ของไทยก็เจริญรุดหน้าขึ้นมาเป็นลำดับ มีหนังสือถูกพิมพ์ออกมาจำหน่ายมากมายปีละหลายเล่ม และในปัจจุบันประเทศไทยนับเป็นประเทศหนึ่งที่มีพัฒนาทางเทคโนโลยีทางการพิมพ์มาอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าโรงพิมพ์ในบ้านเรานั้นทันสมัยทัดเทียมกับต่างประเทศได้เลยทีเดียว

เมื่อมีหนังสือเกิดขึ้นก็ย่อมมีการเก็บรักษาจนเกิดกลายเป็นห้องสมุด แล้วห้องสมุดนี่มันกำเนิดขึ้นมาเมื่อไหร่กัน


หมอบรัดเลย์

 
* เผยแพร่ครังแรกใน http://janghuman.wordpress.com
** บรรณารักษ์ ห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
 
เริ่มเมื่อ 4 ธันวาคม 2552
ปรับปรุงครั้งล่าสุด : 5 ธันวาคม 2552
งานสารสนเทศและห้องสมุดสตางค์ มงคลสุข คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
โทรศัพท์ 0-2201-5710 โทรสาร 0-2354-7144 e-mail : lisc@mahidol.ac.th