|
|
หนังสือเล่มโปรดของคณบดี
ศาสตราจารย์ศกรณ์ มงคลสุข
คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล |
…หนังสือเล่มโปรดในดวงใจ
... อืมมม เขียนไปแล้วอาจจะดูตลกนะ เป็นหนังสือซีรี่ส์ที่ผมอ่านตั้งแต่ตอนเด็กเลย
มันเป็นหนังสือที่สมัยเด็กๆ เรียกว่าผมอ่านบ่อยมาก อ่านซ้ำมาก เป็นหนังสือปกแข็งภาษาไทย
อ่านตั้งแต่ปกแข็งเรียบร้อยนี่กระจุยกระจายขาดวิ่นไปหมดเลย เป็นหนังสือซีรี่ส์
หนังสือแปลจากฝรั่ง ของ Laura Ingalls เรื่อง Little House in the
Big Woods บ้านเล็กในป่าใหญ่ ริมทะเลสาบสีเงิน เมืองเล็กในทุ่งกว้าง มีอยู่ประมาณ 6-7
เล่ม เล่มสุดท้ายนี่ ปีทองอันแสนสุข มันเป็นหนังสือที่ Laura Ingalls
เขียนไว้เป็นภาษาอังกฤษแล้วเอามาแปล เป็นหนังสือที่เล่าถึงชีวิตในยุคต้นๆ
เป็นยุคบุกเบิกของอเมริกา มีเป็น family หนึ่งที่เข้าไปจับจองที่ดิน
เป็น settle ใช้ชีวิตประจำวันยังไง มีการทำอาหาร รับประทานอาหารอะไร
ต้องไปล่าสัตว์ ซึ่งตอนเด็กๆ คือไม่ถึงกับเล็กมากนะครับ สิบกว่าขวบ
เป็นหนังสือที่ผมชอบอ่านมาก จริงๆแล้วผมไม่ทราบนะครับว่าทำไมผมถึงชอบ
เรียกว่าอ่านทุกวัน วันละสามเวลา คือหนังสือมีเจ็ดเล่ม ก็อ่านไปเรื่อยจนผุพังไปทั้งเจ็ดเล่ม
ผมคิดว่ามันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้รักการอ่านหนังสือ แต่พอไปอยู่เมืองนอก
ไปอ่านภาษาอังกฤษ รู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมือนกัน รู้สึกว่าสิ่งที่เค้าพูดถึงในหนังสือตอนเป็นภาษาไทยเนี่ย
อ่านแล้วมันอาจจะต้องใช้จินตนาการคิดไป พอไปอยู่เมืองนอก ไปอ่านภาษาอังกฤษ
มันก็เหมือนธรรมดา อย่างไปติด snow storm ถ้าอ่านหนังสือแต่เราไม่เคยไปติดอยู่ใน
snow storm ก็อาจจะต้อง imagine ว่ามันเป็นยังไง แต่ถ้าเกิดไปอยู่ใน
snow storm จริงๆ มันก็อาจเป็นของธรรมดา ซึ่งผมคิดว่าอันนี้มันเป็นผลดีของหนังสืออีกชนิดหนึ่ง
คืออ่านแล้วคนอ่านจะต้องมีการสร้างภาพตามไปด้วย ซึ่งอาจจะเหมือนของจริงเป๊ะมั้ย
หรืออาจจะไม่เหมือน? แต่นั่นมันเป็นสิ่งที่ดี หรือความดีของหนังสือ
เราอ่านแล้วต้องจินตนาการตามไปเอง ส่วนดูหนังนี่มันไม่ต้องใช้จินตนาการเพราะเขาสร้างมาให้เราแล้ว
ซึ่งผมก็ชอบมากเลยนะ ดูหนังเนี่ย (หัวเราะ) แต่จริงๆ แล้วหนังสือนี่เป็นตัวอย่างที่ดีเลย
คืออ่านแล้วเราต้องคิดว่ามันจะเป็นอย่างโง้นอย่างงี้ ซึ่งอาจจะจริงมั่งไม่จริงมั่ง
แต่พอไปเจอของจริงเข้า อาจจะไม่เหมือนเป๊ะ แต่มันจะไม่ตื่นเต้นเท่ากันอ่านเมื่อสมัยเด็กๆ
เล่มนี้เป็นหนังสือซีรี่ส์แรกที่ผมเริ่มอ่าน
อ่านจนติด คืออาจจะแปลกกว่าเด็กคนอื่นคือผมไม่อ่านหนังสือกำลังภายใน
หนังสือจีนอะไรพวกนี้ เนื่องจากว่าอ่านไปแล้วจำชื่อคนไม่ได้ ชื่อมันหลากหลายเหลือเกิน
อ่านไปอ่านมาก็ลืม แล้วนี่เป็นใครมาทำอะไรกัน (หัวเราะ) จริงๆ แล้วข้อดีที่สุดของการได้อ่านหนังสือคือทำให้เรามีจินตนาการ
นอกจากจะเป็นการฝึกภาษาให้ดีขึ้นแล้ว ก็ทำให้คนอ่านมีความคิดตามไปด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วจินตนาการเราก็เอามาใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างมาทำงาน
ทำวิจัย มันเป็น area นึงที่คนไม่ค่อยพูดถึง ทำวิจัยยิ่งลึกเท่าไหร่ก็ต้องยิ่งมีจินตนาการมากขึ้น
เพราะทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน จริงๆ แล้วคุณไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
ในหัวคุณก็ต้องสร้างจินตนาการเอาไว้เหมือนกัน ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้เราจะได้มาจากการอ่านหนังสือ
ฝึกฝน และคิดเป็น
|
|