อินทรี เสนสอน

เล่มที่ชอบคือหนังสือธรรมะของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เป็นหนังสือธรรมะที่อ่านได้ง่ายมากๆ และก็นำเอาไปปรับใช้กับตัวเองได้ คือผมว่าทุกวันนี้อะไรๆ มันก็รวดเร็ว โลกมันเป็นโลกาภิวัฒน์มันก็ทำให้ชีวิตสะดวกขึ้น แต่มันก็ทำให้คนเรามีความอดทนน้อยลงหรือกระทั่งไม่อดทนเลย อะไรๆ ก็ต้องให้ได้ดั่งใจ หนังสือเล่มนี้ก็จะสอนเราว่าทำไมเราต้องอดทน ชื่อหนังสือ " มีขันติ คือให้พรแก่ตัวเอง" เล่าถึงประวัติชีวิตของท่านสมัยที่เริ่มเข้ามาในประเทศไทย มาเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ชา คือก่อนหน้านี้ชีวิตของพระอาจารย์ได้ลองฝึกตัวเอง บุกป่าลุยดงเพื่อแสวงหาธรรม แต่สุดท้ายท่านก็มาหยุดอยู่ที่ประเทศไทยเนี่ยฮะ วัดของหลวงปู่ชา ท่านก็ยกตัวอย่างจากความเป็นจริงว่าอยู่ในโลกนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีอะไรเลย ความอดทนก็ไม่มี ชีวิตก็จะไม่มีระเบียบ ท่านบอกว่า "...เพียงแค่การดำรงชีวิตให้อยู่อดในโลกนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีชีวิตอยู่อย่างมีคุณภาพ...นับตั้งแต่เด็กจนถึงวันสุดท้ายของชีวิตก็ต้องมีความอดทน ชีวิตจึงจะพัฒนาได้..."

ตอนท้ายของหนังสือ พระอาจารย์ก็ยกตัวอย่างบุคคลที่ไม่ยอมล้มเลิกความตั้งใจ มีความอดทนจนประสบความสำเร็จในชีวิต เช่น นักวิทยาศาสตร์ที่เรารู้จักกันดีผู้คิดค้นหลอดไฟ โทมัส เอดิสัน เค้าบอกว่า "ความล้มเหลวหลายๆ อย่างในชีวิตเป็นเพราะคนเราไม่ตระหนักว่าพวกเขาอยู่ใกล้ความสำเร็จมากแค่ไหน ตอนที่เขายอมแพ้" หรือตอนที่เขาทดลองผลิตหลอดไฟตั้ง 700 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ เอดิสันบอกว่า "เรายังไม่ล้มเหลว เรารู้มากกว่าใครๆ ในโลกเรื่องนี้ และยังรู้อีกว่ามี 700 วิธีที่เราไม่ควรทำ อย่าเรียกว่าผิดพลาด แต่ให้เรียกว่าเป็นการเรียนรู้" หรือจะเป็นเรื่องของผู้พันไก่ทอด KFC แกไปเสนอสูตรไก่ทอดตั้ง 1,009 ครั้ง ก็ไม่มีใครรับ จนมาสำเร็จเอาในครั้งที่ 1,010 เมื่ออายุ 70 กว่า ๆ

พระอาจารย์ยังสอนอีกว่า ความอดทนที่เป็นแก่นธรรมจริงๆ ต้องมีปัญญาควบคู่ไปด้วย เรามักมองความอดทนในแง่ลบ อย่างทำไมต้องทนด้วยว้า ทำไมต้องเรียนด้วยว้า แต่ท่านสอนว่า "ผู้มีปัญญาเท่านั้นจึงจะอดทนได้ อดทนกับปัญญานั้นเป็นของคู่กัน"

อยากแนะนำให้พวกเราอ่านหนังสือเล่มนี้กัน เพราะในการทำแล็บหรือทำวิจัยเนี่ยมันต้องอดทน บางคนเหนื่อย ท้อแท้ ไม่อยากทำ หรือโดนความกดดันจากอาจารย์ จากผู้บังคับบัญชา เราก็ต้องมีความอดทน มีขันติ เพราะมันก็คือการให้พรแก่ตัวเอง