อาจารย์ระพีนะครับ
เล่มที่ชอบก็คือ ความสุขของกะทิ ของ คุณงามพรรณ เวชชาชีวะ ทำไมถึงชอบ...ก็คือเพราะได้ซีไรต์นั่นแหละ
ปกติจะไม่ค่อยมีโอกาสได้อ่านหนังสือซักเท่าไหร่ จะตามอ่านหนังสือที่คนเค้าพูดถึงกันก่อน
อีกวิธีง่ายๆ ก็คือดูหนังสือที่ได้รางวัลกันก่อน ซึ่งอาจจะไม่ใช่หนังสือที่ดีที่สุด
เล่มนี้เค้าได้ซีไรต์เมื่อปี 49 ก็มันดูเหมือนจะเป็นวรรณกรรมเยาวชน
แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะเป็นภาษาที่ดูง่ายๆ เล่มจะบางๆ อ่านรวดเดียวจบ
คำก็ไม่ได้เยิ่นเย้อ คำจะมีความหมาย ทำให้เรื่องราวเดินต่อไปโดยที่เราไม่ได้รู้สึกเลยว่ามันเป็นวรรณกรรมเยาวชน
รู้สึกว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่เสียด้วยซ้ำไป จริงๆ แล้วสิ่งที่ได้จากเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องของการเขียนมากกว่า
วิธีการเขียนที่ไม่จำเป็นต้องเยิ่นเย้อ ถ้ามันเป็นคำที่ชัดเจนและโดนใจก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำวิริศมาหรา
ก็สามารถจะดึงความสนใจเราได้ เรื่องนี้จะพิเศษตรงที่จะค่อยๆ ดึงเราขึ้นไป
ค่อยๆ ดึงเราขึ้นไปขึ้นไปถึงจุด peak แล้วก็ปล่อยให้เราหล่นตุ้บลงมา
ชอบตรงนี้ ชอบวิธีการเขียนของเค้า ศึกษาวิธีการเขียนของเค้า
นอกจากเล่มนี้ก็ยังมี Da Vinci Code ของ Dan Brown แต่ก่อนชอบอ่านหนังสือแปล ชอบอ่านมากๆ
แต่ว่าช่วงหลังๆ ก็ไม่ค่อยได้อ่าน คือภาษาอังกฤษเริ่มแข็งแรงขึ้นเลยไม่ค่อยได้พึ่งหนังสือแปล
หันมาอ่านจากต้นฉบับ ก็เลยเข้าใจคำว่า Page Turner ว่ามันแปลว่าอะไร
คือมันต้องพลิกไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ เพราะมันวางไม่ได้ อ่านแล้ววางไม่ได้เลย
เรื่องมันก็เกี่ยวกับรหัสต่างๆ ก็คงจะพอรู้จักกันอ่ะนะ เป็นหนังด้วยนี่
คนที่ชอบวิทยาศาสตร์อาจจะชอบเพราะมันเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์หน่อยๆ
ศาสนา เรื่องความขัดแย้ง แล้วต้องใช้ความคิดตลอดเวลาอ่าน มีแผนที่ให้ดูอยู่เรื่อยๆ
ก็มีความสุขในการได้ดูแผนที่ไปเรื่อยๆ ถอดรหัสไปเรื่อยๆ ในที่สุดก็อ๋อ...
เป็นอย่างนี้นี่เอง ว่าตัวเองถูกหลอก ... ชอบ รู้สึกซาดิสม์ที่ตัวเองถูกหลอกได้
เค้าดำเนินเรื่องได้ดี
สองเล่มนี้มันคนละแบบ อย่างเรื่องนี้มันเป็น Thriller วิธีเขียนมันก็ต้องทำให้รู้สึกตื่นเต้น
แต่วิธีการเขียนของคุณงามพรรณนี่ก็ชอบ คือค่อยๆ built ค่อยๆ ซึมซับไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่าเรากำลังถูก
built คำที่ดูเหมือนเรียบๆ ง่ายๆ แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีเสน่ห์
ชอบตรงนี้
Da Vinci Code นี่อ่านเอาบันเทิงอย่างเดียว เอามันอย่างเดียวเลย
อ่านก่อนที่หนังจะออกมาหลายปีเหมือนกัน ก็ไม่ได้คิดว่า Tom Hanks
จะมาเป็น เอ่อ ... ภาพในหัวนี่ไม่เคยคิดว่าจะเป็น Tom Hanks แต่ก็โอเค
จริงๆ แล้วยอมรับเลยว่าช่วงหลังผมเองก็ไม่ได้อ่านหนังสือสักเท่าไหร่
แต่การอ่านหนังสือนี่มันเป็นการฝึกฝน มีการทดลองมาว่า ยิ่งเรามีการฝึกฝนการใช้สมองมาก
ๆ มันก็ยิ่งส่งผลให้การเสื่อมของสมองเราช้าลง การที่เราอ่านหนังสือมันก็มีการใช้จินตนาการ
มีการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่เราอ่านกับสิ่งที่เรามีอยู่แล้วจากประสบการณ์ของเรา
ทำให้ Connection เหล่านั้นกับเซลล์ประสาทต่างๆ ยังคงดำรงอยู่ การเสื่อมของสมองก็จะช้าลง
การใช้จินตนาการ การได้ฝึกฝน การใช้ความคิด ก็จะทำให้แก่ช้าลงนะ
หมายถึงสมองจะแก่ช้าลง...
|