ดร.ปรียานุช แสงไตรรัตน์นุกูล

“สามก๊ก” ค่ะ อ่านตอนเรียนจบและกลับมาทำงานที่นี่ใหม่ๆ มันพูดถึงกลยุทธ์ในการรบ ซึ่งก็สามารถเอามาปรับใช้กับชีวิตเราได้นะคะ เช่นการบริหารคน การวางแผนทำงาน ตัวละครที่ชอบเป็นพิเศษก็คงจะเป็น ขงเบ้ง ชอบตอนที่เค้าไปชักชวนซุนกวนกับจิวยี่ให้รบกับโจโฉ ที่ถูกเอามาทำเป็นหนังด้วยน่ะ ตอน โจโฉแตกทัพเรือ ชอบตอนนี้เป็นพิเศษ เพราะมีการวางแผนต่อสู้ทางความคิดกันอย่างซับซ้อน ขงเบ้งต้องสู้กับทั้งศึกภายในคือจิวยี่ และศึกภายนอกคือโจโฉ สุดท้ายขงเบ้งก็สามารถชนะได้โดยแทบไม่ต้องใช้กำลังเลย

ตอนอ่านสามก๊กนอกจากสนุกแล้วยังได้ไอเดียในการทำงานนะ อย่างถ้าจะทำงานกับใครนี่ก็ต้องรู้เขารู้เราเป็นสำคัญ ถ้าเรารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นยังไงเราก็จะได้ทำงานกันได้ราบรื่นขึ้น นอกจากสามก๊กแล้ว ก็ชอบพวก Non-Fiction อย่างเช่นเรื่อง The Tipping Point ที่พยายามอธิบายว่าทำไมบางไอเดีย หรือสินค้าต่างๆ มันถึงเกิดขึ้น แพร่หลาย และเป็นที่นิยมได้ โดยอาศัยความสัมพันธ์ของคนกลุ่มต่างๆ ในสังคม อย่างเช่นมีกลุ่มนึงเรียกว่าพวก Connectors เช่นถ้าใครรู้จักคนนี้ก็จะไปรู้จักกับอีกคนหนึ่ง คือรู้จักคนมากๆ แต่ละคนก็จะ connect ต่อไปยังอีกคนอีก เหมือนกัน Link ต่อกันไปเรื่อยๆ ซึ่งก็เห็นได้ในสังคมเราจริงๆ เลยนะ

ถ้าเป็นพวกนิยายก็อ่าน แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ช่วยฝึกจินตนาการดี อ่านทั้งภาษาอังกฤษและก็ภาษาไทย อย่างถ้าเรายังไม่เคยได้ดูหนังนะคะ เวลาอ่านเราก็จะได้คิดได้ฝึกจินตนาการในหัวว่าแต่ละฉากมันจะเป็นยังไง ส่วนถ้าอยากจะฝึกภาษาอังกฤษเอาแบบไม่ยากนักก็แนะนำ เล่ม 1 กับเล่ม 2 เพราะภาษาเค้าจะเขียนค่อนข้างอ่านง่าย อ่านเพลินด้วย แต่พอเล่มหลังๆ ก็จะเริ่มใช้ภาษาที่ยากขึ้นมาอีกนิดนึงแต่ก็ไม่ได้ยากมากนักนะคะ คิดว่าเป็นหนังสือที่ดีเลยสำหรับใช้ฝึกภาษาอังกฤษ

การอ่านหนังสือนอกจากให้ความบันเทิง ให้ไอเดียใหม่ๆ ก็ยังช่วยเสริมสร้างจินตนาการซึ่งสำคัญมากสำหรับนักวิทยาศาสตร์ หรืออาชีพใดๆก็แล้วแต่ อย่างเวลาจะคิดโปรเจคต์อะไรขึ้นมานี่ก็ต้องใช้จินตนาการนะคะ เช่นว่ามันมีงานวิจัยถึงระดับนี้แล้วมันจะไปต่อได้ยังไง หรืออย่างงานที่ตัวเองทำ คือศึกษาการสังเคราะห์พวกสารประกอบใหม่ๆ ก็ต้องใช้จินตนาการนะว่ามันจะมีโครงสร้างอะไรได้บ้าง การอ่านหนังสือก็เป็นตัวช่วยให้เราได้หัดคิดอะไรใหม่ๆ ได้ด้วย