หนังสือเล่มโปรด
(My Favorite Book) |
|
|
นพ.นวนรรน
ธีระอัมพรพันธุ์
นักศึกษาปริญญาเอก สาขา Health Informatics, University
of Minnesota |
สวัสดีครับ ผม นพ.นวนรรน ธีระอัมพรพันธุ์
ครับ เป็นหมอที่เรียนสาขาที่คนอื่นเขาไม่เรียนกัน และไม่ค่อยจะรู้จัก
คือ สาขา เวชสารสนเทศ (Health Informatics) คือการจัดการสารสนเทศทางสุขภาพครับ
ผมจบแพทย์รามาธิบดี จึงถือเป็นศิษย์เก่าของคณะวิทย์คนหนึ่งเช่นกัน
ผมทำงานอยู่ที่คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ตอนนี้อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเรียน
ป.เอก ที่ University of Minnesota ที่สหรัฐฯ ครับ
หนังสือที่ผมชอบมากเล่มหนึ่งคือ
The Tipping Point โดย Malcolm Gladwell ตีพิมพ์เมื่อปี
2000 ครับ จริงๆ หนังสือเล่มนี้เป็น Best Seller มานานแล้ว แต่ผมเพิ่งได้มีโอกาสอ่านเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้
จากคำแนะนำของรุ่นพี่คนหนึ่ง และก็รู้สึกว่ามีแนวคิดที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานอยู่ไม่น้อย
The Tipping Point ตั้งข้อสังเกตถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เริ่มก่อจากจุดเล็กๆ
และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็ขยายตัวเป็นวงกว้าง หรือเรียกกันว่าเป็น "โรคระบาดทางสังคม"
(social epidemic) ซึ่ง Gladwell ได้เล่าปรากฏการณ์ที่น่าสนใจต่างๆ
มากมาย ตั้งแต่เรื่องการปราบปรามอาชญากรรมใน New York ไปจนถึงการที่รองเท้าบางยี่ห้อได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
หรือแม้กระทั่งเรื่องทฤษฎี Six Degrees of Separation ที่ว่าเราสามารถหาจุดเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างเรากับใครก็ตามในโลกได้
ผ่านคนเพียง 6 คนเท่านั้น เป็นต้น
Malcolm Gladwell เล่าปรากฏการณ์ต่างๆ เหล่านี้ เพื่อตั้งข้อสังเกตว่ามันมีแบบแผนพิเศษบางอย่างที่คล้ายกัน
ที่น่าจะทำให้ปรากฏการณ์เล็กๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นจนถึงจุดจุดหนึ่ง
ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง หยุดไม่อยู่ (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหนังสือ
The Tipping Point) ซึ่งทำให้เรามองออกว่า ถ้าเราจะจุดประกายให้สิ่งใดที่เราสนใจ
ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง เราควรจะมีกลยุทธ์อย่างไร ไม่ว่าสิ่งที่เราอยากจะทำให้เกิด
"epidemic" ขึ้นนั้น จะเป็นแฟชั่นที่เราชื่นชอบ สินค้าหรือบริการที่บริษัทหนึ่งๆ
พัฒนา กิจกรรมดีๆ ที่เราจัด การรณรงค์ต่างๆ (เช่น รณรงค์บริจาคอวัยวะ)
หรือสำหรับนักสารสนเทศอย่างผมก็คือ ทำอย่างไรจึงจะทำให้กลุ่มเป้าหมายของผมใช้ระบบสารสนเทศที่เราพัฒนาขึ้น
อย่างกว้างขวาง
สำหรับรายละเอียดของกลยุทธ์เหล่านี้ คงต้องไปอ่านกันเอาเองในหนังสือครับ
เพราะเต็มเปี่ยมไปด้วยตัวอย่างที่นอกจากจะทำให้เราเข้าใจ concept
ที่เกี่ยวข้องได้ง่ายแล้ว ยังช่วยชักจูงให้เราเห็นคล้อยตามกับผู้เขียนด้วย
ทั้งยังเป็นการฝึกภาษาอังกฤษในตัว หนังสือดีๆ มีสาระอย่างนี้ พลาดไม่ได้ครับ
|
|
|
|
|
|
|
|