หนังสือเล่มโปรด
(My Favorite Book) |
|
|
รองศาสตราจารย์
นพ. นรัตถพล เจริญพันธุ์
อาจารย์ภาควิชาสรีรวิทยา คณะวิทยาศาสตร์
นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ ประจำปี พุทธศักราช 2551
นักวิจัยรุ่นใหม่ดีเด่น สกว.-สกอ. ประจำปี พุทธศักราช 2551
|
|
ปกติผมอ่านหนังสือเป็นประจำและหลากหลาย
ประเภทที่อ่านเป็นกิจวัตรก็จะเป็นวารสารที่เป็นสมาชิกอยู่ เช่น
Science และ Scientific
American คอลัมน์ที่ชอบก็จะเป็นบทความที่สั้นกระชับ
เช่น บท editorials, news และ perspectives คอลัมน์พวกนี้ช่วยให้เราได้รับข่าวสารและแนวคิดที่ทันสมัยโดยเขียนด้วยภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่าย
บางทีผมก็แวะร้านหนังสือก่อนกลับบ้าน เดินเลือกซื้อหนังสือ เช่น
นวนิยาย ประวัติศาสตร์ ท่องเที่ยว หรือศิลปะมาอ่านเวลาว่างหรือไปพักผ่อนต่างจังหวัด
นอกจากจะอ่านหนังสือที่เป็นเล่มแล้วยังมีแบบที่เป็น e-book หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ด้วย
ทุกวันนี้ผมอ่านใน iPad ซึ่งก็สะดวก เพราะมีน้ำหนักเบาและเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้
ที่จริงถึงแม้ว่าจะมี e-book ซึ่งพกติดตัวได้ง่ายทำให้มีความสะดวกในการอ่านมากขึ้น
แต่ผมก็ยังชอบอ่านหนังสือที่เป็นกระดาษอยู่ เพราะทำให้เราเปิดกลับไปกลับมาได้สะดวก
หรือจดบันทึกได้ง่ายกว่า
ส่วนนวนิยายผมชอบอ่านเป็นเล่มแบบพ็อกเก็ตบุ๊ค ส่วนหนึ่งเพราะจะต้องใช้เวลากับมันมาก
ถ้าเริ่มอ่านแล้วมักจะต้องนั่งอ่านตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อความต่อเนื่อง
นวนิยายหลายเรื่องมีความน่าสนใจ เพราะอ้างอิงประวัติศาสตร์เหตุการณ์จริง
หรือสถานที่จริง ถ้าเรื่องไหนได้รับความนิยมสูงก็จะมีคนทำคู่มือออกมาด้วย
เช่น เรื่อง Da Vinci
Code ของ Dan Brown คู่มืออธิบายถึงสถานที่
วัตถุ หรือประวัติความเป็นมาของสิ่งที่อ้างถึงในหนังสือ บางทีก็มีรูปภาพประกอบทำให้อ่านสนุกและได้ความรู้มากขึ้น
นวนิยายเรื่อง
Deception Point
ของ Dan Brown เป็นอีกเรื่องที่สนุกน่าตื่นเต้นมีความเป็น“วิทยาศาสตร์”
ดี มีฉบับที่แปลเป็นภาษาไทยด้วย แปลได้ดีทีเดียว แต่ผมว่าควรอ่านทั้งสองภาษาเพื่อเปรียบเทียบกันจะทำให้ได้อรรถรสมากกว่า
Deception Point เป็นเรื่องราวของ NASA ที่ค้นพบอุกกาบาตที่มีฟอสซิลดึกดำบรรพ์อยู่ข้างใน
หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ มีสิ่งมีชีวิตอยู่นอกโลกจริง ซึ่งเป็นการค้นพบที่มี
“Impact” สูงมาก เรื่องนี้มีความซับซ้อน มีทั้งเรื่องของการเมืองและวิทยาศาสตร์
ทั้ง NASA และประธานาธิบดีสหรัฐตื่นเต้นกับการค้นพบครั้งนี้มากจึงให้นักวิทยาศาสตร์หลายสาขามาร่วมทำวิจัยเพื่อพิสูจน์ความจริง
และให้พระเอกซึ่งเป็นนักวิทยาศาสตร์เจ้าของรายการสารคดีชื่อดังทำรายการโทรทัศน์เพื่อเผยแพร่ให้คนทั่วไปเข้าใจ
การค้นพบครั้งนี้มีผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ส่วนนางเอกเป็นลูกสาวนักการเมืองคู่แข่ง และเป็นนักวิเคราะห์ข่าวกรองประจำทำเนียบขาว
เนื้อเรื่องจะมีการเล่าสลับไปมา ระหว่างการสำรวจอุกกาบาต และทีมสายลับที่เฝ้าสังเกตการณ์
ซึ่งจะคอยลอบสังหารคนที่พยายามจะเข้ามาสืบหรือค้นหาความจริงว่าอุกกาบาตนี้มีเรื่องไม่ชอบมาพากล
หลังจากที่นางเอกและทีมนักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษาลงลึกเพื่อตรวจสอบรายละเอียดของวัตถุชิ้นนี้ก็พบความผิดปกติ
พวกเขาคิดว่าอุกกาบาตนี้ไม่ธรรมดาและน่าจะมีความลับอื่นซ่อนอยู่
เมื่อพยายามค้นหาความจริงเพิ่มเติม พวกเขากลับถูกตามล่าทีละคนและต้องหลบหนีเอาชีวิตรอดด้วยความยากลำบาก
โดยมีเจ้านายของนางเอกซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงคอยช่วยเหลือ
สุดท้ายพระเอกเข้าใจเรื่องทั้งหมด เนื่องจากผู้ช่วยวิจัยของพระเอกอ่านพบความลับใน
“Paper” ที่ตีพิมพ์โดยนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลคนหนึ่ง
...เห็นไหมครับว่าวารสารวิชาการมีประโยชน์มากจริง ๆ...
ประเด็นที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นคือ ความลับที่ต้องการเก็บซ่อนคืออะไร
และ “ใคร” เป็นผู้บงการฆ่านักวิทยาศาสตร์เหล่านี้ จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐที่กำลังมีคะแนนนิยมต่ำลงอย่างมากและกำลังจะเลือกตั้งแพ้พ่อของนางเอก
หรือจะเป็นผู้อำนวยการ NASA ที่ต้องการสร้างชื่อเสียงให้กับหน่วยงาน
หรือเป็นสมาชิกบางคนของทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการผลงาน ผมไม่เฉลยดีกว่า
แต่จะบอกว่าเป็นเรื่องที่หักมุมมาก ๆ เรื่องนี้อ่านแล้วได้แง่คิดหลายอย่างที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงานได้จริง
เช่น เรื่องของวิทยาศาสตร์ที่ต้องทำงานเป็นทีมแบบบูรณาการ คือมีผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขามาร่วมแก้โจทย์วิจัยด้วยกัน
การทำงานเดี่ยวเฉพาะสาขาใดสาขาหนึ่งอาจจะได้คำตอบที่ไม่สมบูรณ์หรืออาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ผิดพลาด
และอีกประเด็นคือ ความสำคัญของการถ่ายทอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในรูปแบบและภาษาที่เข้าใจง่าย
ๆ เนื่องจากคนจำนวนหนึ่งอาจรู้สึกว่าวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่เข้าใจยากและไม่น่าสนใจ
นอกจากนี้ผู้แต่งยังเชื่อมโยงเรื่องของการเมือง วิทยาศาสตร์ และความมั่นคงของประเทศได้อย่างกลมกลืนสมเหตุสมผล
สุดท้ายผมขอกล่าวสั้น ๆ ว่า หลายคนอาจชอบดูโทรทัศน์ หรือท่องโลกอินเทอร์เน็ต
เพื่อรับข่าวสารและหาข้อมูลมากกว่าอ่านหนังสือเป็นเล่ม แต่หนังสือก็มีเสน่ห์ที่น่าสนใจเพราะนอกจากรูปเล่มที่สวยงามน่าอ่าน
ได้ความรู้และความบันเทิงแล้ว ยังได้เรียนรู้เรื่องการใช้ภาษาเขียน
ตลอดจนวิธีการส่งผ่านความคิดโดยการใช้ตัวอักษรอีกด้วย
|
|
|
|
|