ทักษะการรู้สารสนเทศ (Information Literacy)

กรอบแนวคิดการรู้สารสนเทศ (Frameworks of Information Literacy)


ACRL Framework for Information Literacy for Higher Education (2015)

กรอบแนวคิดนี้พัฒนาจากความเชื่อที่ว่าการรู้เท่าทันสารสนเทศเป็นขบวนการปฏิรูปทางการศึกษา จะสามารถบรรลุศักยภาพของตนได้ก็ต่อเมื่อยึดถือแนวคิดหลักที่ลึกซึ้งและหลากหลายยิ่งขึ้น โดยกรอบทั้ง 6 ข้อนี้ ถูกนำเสนอเรียงตามลำดับตัวอักษร และไม่ได้แสดงถึงลำดับการเรียนรู้ที่ตายตัวว่าจะต้องเรียนรู้อย่างไรหรือในลำดับใดก่อนหลัง

  1. อำนาจของแหล่งข้อมูลเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น และขึ้นอยู่กับบริบท (Authority Is Constructed and Contextual) - แหล่งข้อมูลสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและความน่าเชื่อถือของผู้สร้าง และถูกประเมินค่าตามความต้องการของข้อมูลและบริบทที่ข้อมูลนั้นจะถูกนำไปใช้ อำนาจของแหล่งข้อมูลเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้น เนื่องจากชุมชนหรือกลุ่มต่าง ๆ อาจยอมรับรูปแบบของอำนาจที่แตกต่างกันไป และยังขึ้นอยู่กับบริบทด้วย เพราะระดับของอำนาจที่ต้องการนั้นอาจขึ้นอยู่กับความจำเป็นของข้อมูลในแต่ละสถานการณ์
  2. การสร้างสารสนเทศเป็นกระบวนการ (Information Creation as a Process) - ข้อมูลในทุกรูปแบบถูกสร้างขึ้นเพื่อถ่ายทอดสารและถูกเผยแพร่ผ่านช่องทางหรือวิธีการที่เลือกใช้ กระบวนการในการวิจัย การสร้าง การแก้ไข และการเผยแพร่ข้อมูลนั้นเป็นกระบวนการที่ทำซ้ำได้และมีความหลากหลาย ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการเหล่านี้จะสะท้อนความแตกต่างในแต่ละขั้นตอนของการผลิตข้อมูล
  3. สารสนเทศมีคุณค่า (Information Has Value) - ข้อมูลมีคุณค่าในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะในฐานะสินค้า เครื่องมือเพื่อการศึกษา เครื่องมือในการโน้มน้าว หรือเป็นช่องทางในการต่อรองและทำความเข้าใจโลก ผลประโยชน์ทางกฎหมายและสังคมเศรษฐกิจมีอิทธิพลต่อกระบวนการผลิตและเผยแพร่ข้อมูล
  4. การวิจัยคือกระบวนการตั้งคำถาม (Research as Inquiry) - การวิจัยเป็นกระบวนการที่ต้องทำซ้ำอย่างต่อเนื่อง และขึ้นอยู่กับการตั้งคำถามที่ซับซ้อนมากขึ้นหรือเป็นคำถามใหม่ ซึ่งคำตอบที่ได้จะนำไปสู่คำถามเพิ่มเติมหรือแนวทางการศึกษาต่อในสาขาวิชาใดก็ตาม
  5. วิชาการคือการสนทนา (Scholarship as Conversation) - ชุมชนของนักวิชาการ นักวิจัย หรือผู้เชี่ยวชาญมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง โดยมีการค้นพบและความเข้าใจใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา จากมุมมองและการตีความที่หลากหลาย
  6. การสืบค้นสารสนเทศคือการสำรวจอย่างมีกลยุทธ์ (Searching as Strategic Exploration) - การค้นหาข้อมูลมักเป็นกระบวนการที่ไม่เป็นเส้นตรงและต้องทำซ้ำหลายครั้ง โดยจำเป็นต้องประเมินแหล่งข้อมูลที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่นทางความคิดในการติดตามเส้นทางอื่น ๆ เมื่อความเข้าใจใหม่ ๆ เกิดขึ้น

UNESCO Media and Information Literacy Framework (2013)

กรอบแนวคิดนี้ถูกกำหนดให้เป็นชุดของสมรรถนะที่ช่วยเสริมสร้างความสามารถให้กับประชาชนในการเข้าถึง เรียกใช้ข้อมูล ทำความเข้าใจ ประเมิน และใช้ รวมถึงสร้างและแบ่งปันข้อมูลและเนื้อหาสื่อในทุกรูปแบบ โดยใช้เครื่องมือหลากหลายอย่างมีวิจารณญาณ มีจริยธรรม และมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถมีส่วนร่วมและมีบทบาทในกิจกรรมส่วนบุคคล วิชาชีพ และสังคมได้อย่างเต็มที่

  1. การรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy)
    1. กำหนดและอธิบายความต้องการสารสนเทศ
    2. ค้นหาและเข้าถึงสารสนเทศ
    3. ประเมินสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณ
    4. จัดระเบียบสารสนเทศ
    5. ใช้สารสนเทศอย่างมีจริยธรรม
    6. สื่อสารด้วยสารสนเทศ
    7. ใช้ทักษะ ICT ในการประมวลผลสารสนเทศ
  2. การรู้สารสนเทศ (Information Literacy)
    1. เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของสื่อในสังคมประชาธิปไตย
    2. เข้าใจเงื่อนไขที่ทำให้สื่อสามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนได้
    3. ประเมินเนื้อหาสื่ออย่างมีวิจารณญาณโดยพิจารณาจากหน้าที่ของสื่อ
    4. ใช้สื่อในการแสดงออก แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และมีส่วนร่วมในประชาธิปไตย
    5. เรียนรู้และใช้ทักษะ (รวมถึง ICT) ที่จำเป็นในการผลิตเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น

The SCONUL Seven Pillars of Information Literacy: Core Model For Higher Education (2011)

โมเดลนี้กำหนดทักษะและสมรรถนะหลัก (ด้านความสามารถ) รวมถึงทัศนคติและพฤติกรรม (ด้านความเข้าใจ) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทักษะการรู้สารสนเทศในระดับอุดมศึกษา

  1. การระบุ (Identify) - ระบุความต้องการข้อมูลส่วนบุคคลได้
  2. การกำหนดขอบเขต (Scope) - สามารถประเมินความรู้ที่มีและระบุช่องว่างของข้อมูลได้
  3. การวางแผน (Plan) - สามารถวางแผนกลยุทธ์ในการค้นหาข้อมูลและสารสนเทศได้
  4. การรวบรวม (Gather) - สามารถค้นหาและเข้าถึงข้อมูลและข้อมูลสารสนเทศที่ต้องการได้
  5. การประเมินผล (Evaluate) - สามารถทบทวนกระบวนการวิจัย เปรียบเทียบ และประเมินข้อมูลและสารสนเทศได้
  6. การจัดการ (Manage) - สามารถจัดการสารสนเทศอย่างมืออาชีพและมีจริยธรรมได้
  7. การนำเสนอ (Present) - สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ที่ได้รับ: นำเสนอผลการวิจัย สังเคราะห์ข้อมูลและสารสนเทศทั้งเก่าและใหม่เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ และเผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ ได้

Information, Media & Technology Skills from P21's Framework for 21st Century Learning (2006)

กรอบแนวทางนี้อธิบายถึงทักษะ ความรู้ และความเชี่ยวชาญที่ผู้เรียนจำเป็นต้องมีเพื่อประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงานและการดำรงชีวิต โดยเป็นการผสมผสานระหว่างความรู้ด้านเนื้อหา ทักษะเฉพาะทาง ความเชี่ยวชาญ และการรู้เท่าทันในด้านต่าง ๆ พลเมืองและแรงงานที่มีประสิทธิภาพในศตวรรษที่ 21 ต้องสามารถแสดงทักษะการคิดอย่างมีเหตุผลและการคิดเชิงวิพากษ์ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยีได้อย่างหลากหลาย

  1. การรู้สารสนเทศ (Information Literacy)
    1. เข้าถึงและประเมินสารสนเทศ
      - เข้าถึงสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ (ด้านเวลา) และอย่างมีประสิทธิผล (ด้านแหล่งที่มา)
      - ประเมินสารสนเทศอย่างมีวิจารณญาณและอย่างเชี่ยวชาญ
    2. การใช้และจัดการสารสนเทศ
      - ใช้สารสนเทศอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์เพื่อแก้ไขประเด็นหรือปัญหา
      - จัดการกระแสของสารสนเทศจากแหล่งต่าง ๆ ที่หลากหลาย
      - ประยุกต์ใช้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับประเด็นทางจริยธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงและใช้สารสนเทศ
  2. การรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy)
    1. วิเคราะห์สื่อ
      - เข้าใจทั้งวิธีและเหตุผลที่ข้อความในสื่อถูกสร้างขึ้น รวมถึงจุดประสงค์ของข้อความนั้น
      - วิเคราะห์ว่าผู้คนตีความข้อความแตกต่างกันอย่างไร ค่านิยมและมุมมองถูกแทรกหรือถูกละเว้นอย่างไร และสื่อสามารถมีอิทธิพลต่อความเชื่อและพฤติกรรมได้อย่างไร
      - ประยุกต์ใช้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับประเด็นทางจริยธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงและการใช้สื่อ
    2. สร้างผลิตภัณฑ์สื่อ
      - เข้าใจและใช้เครื่องมือสร้างสื่อ ลักษณะเฉพาะ และรูปแบบของสื่อได้อย่างเหมาะสม
      - เข้าใจและใช้การแสดงออกและการตีความอย่างมีประสิทธิภาพในบริบทที่หลากหลายทางวัฒนธรรม
  3. การรู้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT Literacy)
    1. ใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ
      - ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการวิจัย จัดระเบียบ ประเมิน และสื่อสารสารสนเทศ
      - ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (เช่น คอมพิวเตอร์, อุปกรณ์พกพา, เครื่องเล่นมีเดีย, GPS ฯลฯ), เครื่องมือการสื่อสาร/เครือข่าย และโซเชียลมีเดียอย่างเหมาะสม เพื่อเข้าถึง จัดการ บูรณาการ ประเมิน และสร้างสารสนเทศเพื่อให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในเศรษฐกิจฐานความรู้
      - ประยุกต์ใช้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับประเด็นทางจริยธรรมและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

IFLA Guidelines on Information Literacy (2005)

แนวปฏิบัตินี้จัดทำขึ้นโดยแผนกทักษะการรู้สารสนเทศ (InfoLit) ของสหพันธ์ระหว่างประเทศว่าด้วยสมาคมและสถาบันห้องสมุด (IFLA) มีวัตถุประสงค์เพื่อมอบกรอบแนวทางที่สามารถนำไปใช้ได้จริงสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการหรือสนใจเริ่มต้นโครงการทักษะการรู้สารสนเทศ แนวปฏิบัตินี้จะช่วยสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านสารสนเทศที่มีส่วนร่วมในโครงการด้านการศึกษา ทั้งในการศึกษาขึ้นพื้นฐานและระดับอุดมศึกษา ที่พยายามจะตอบสนองความต้องการสารสนเทศของตนในปัจจุบัน

  1. การเข้าถึง (Access)
    1. การกำหนดและการอธิบายความต้องการสารสนเทศ
      - ระบุหรือรับรู้ถึงความจำเป็นในการใช้สารสนเทศ
      - ตัดสินใจที่จะลงมือทำเพื่อค้นหาสารสนเทศ
      - แสดงออกและกำหนดความต้องการสารสนเทศอย่างชัดเจน
      - เริ่มต้นกระบวนการค้นหาสารสนเทศ
    2. การค้นหาสารสนเทศ
      - ระบุและประเมินแหล่งสารสนเทศที่มีศักยภาพ
      - พัฒนากลยุทธ์ในการค้นหา
      - เข้าถึงแหล่งสารสนเทศที่เลือกไว้
      - เลือกและเรียกใช้สารสนเทศที่ค้นพบ
  2. การประเมินผล (Evaluation)
    1. การประเมินสารสนเทศ
      - วิเคราะห์ ตรวจสอบ และสกัดสารสนเทศ
      - สรุปและตีความสารสนเทศ
      - คัดเลือกและสังเคราะห์สารสนเทศ
      - ประเมินความถูกต้องและความเกี่ยวข้องของสารสนเทศที่ค้นหาได้
    2. การจัดระเบียบสารสนเทศ
      - จัดเรียงและจัดหมวดหมู่สารสนเทศ
      - จัดกลุ่มและจัดระเบียบสารสนเทศที่ค้นหาได้
      - พิจารณาว่าสารสนเทศใดดีที่สุดและมีประโยชน์มากที่สุด
  3. การใช้ (Use)
    1. การใช้สารสนเทศ
      - ค้นหาวิธีใหม่ ๆ ในการสื่อสาร นำเสนอ และใช้สารสนเทศ
      - นำสารสนเทศที่ค้นหาได้ไปประยุกต์ใช้
      - เรียนรู้หรือซึมซับสารสนเทศเป็นความรู้ส่วนบุคคล
      - นำเสนอผลผลิตหรือผลงานที่ได้จากสารสนเทศ
    2. การสื่อสารและการใช้สารสนเทศอย่างมีจริยธรรม
      - เข้าใจการใช้สารสนเทศอย่างมีจริยธรรม
      - เคารพการใช้สารสนเทศที่ถูกต้องตามกฎหมาย
      - นำเสนอผลงานจากการเรียนรู้โดยอ้างอิงแหล่งที่มาของทรัพย์สินทางปัญญา
      - ใช้รูปแบบการอ้างอิงตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง

Big 6 Model (1997)

โมเดลที่อธิบายกระบวนการที่ผู้คนทุกวัยใช้ในการแก้ปัญหาทางสารสนเทศ จากการฝึกฝนและศึกษา การแก้ปัญหาทางสารสนเทศที่ประสบความสำเร็จประกอบด้วยหกขั้นตอนหลัก โดยแต่ละขั้นตอนหลักมีสองขั้นตอนย่อย

  1. การกำหนดงาน (Task Definition)
    1.1 กำหนดปัญหาด้านสารสนเทศ
    1.2 ระบุสารสนเทศที่ต้องการ
  2. การวางแผนกลยุทธ์การค้นหา (Information Seeking Strategies)
    2.1 กำหนดแหล่งข้อมูลที่เป็นไปได้ทั้งหมด
    2.2 เลือกแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุด
  3. การค้นหาและเข้าถึงสารสนเทศ (Location and Access)
    3.1 ค้นหาแหล่งข้อมูล (ทั้งในเชิงทรัพย์สินทางปัญญาและทางกายภาพ)
    3.2 ค้นหาสารสนเทศภายในแหล่งข้อมูลนั้น ๆ
  4. การใช้สารสนเทศ (Use of Information)
    4.1 มีส่วนร่วม (เช่น อ่าน ฟัง ดู สัมผัส)
    4.2 สกัดสารสนเทศที่เกี่ยวข้อง
  5. การสังเคราะห์ (Synthesis)
    5.1 จัดระเบียบสารสนเทศจากหลายแหล่งข้อมูล
    5.2 นำเสนอสารสนเทศ
  6. การประเมินผล (Evaluation)
    6.1 ตัดสินผลลัพธ์ (ประสิทธิผล)
    6.2 ตัดสินกระบวนการ (ประสิทธิภาพ)